โดนใจคนรุ่นใหม่ผู้ชื่นชอบสินค้าและบริการที่มีกลิ่นอายความเป็นไทยร่วมสมัยเลยทีเดียว เพราะนอกจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ได้ดำเนินโครงการตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) รับรองโดย กระทรวงพาณิชย์ที่มีการบูรณาการร่วมกับกระทรวงแรงงานและกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการของไทยว่า ครบครันคุณภาพ อัดแน่นมาตรฐาน พร้อมมีคุณสมบัติที่ทั่วโลกไว้วางใจ ตั้งแต่กระบวนการผลิตที่มีคุณภาพระดับสากล การดำเนินงานที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม (Green Industry) รวมทั้งการใช้แรงงานที่เป็นธรรม (Thai Labour Standard) ในด้านของภาพลักษณ์ที่โดดเด่น การออกแบบที่ดี ทันสมัยของสินค้าและบริการก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อมอบแด่ผู้บริโภค

          โดย DITP ใส่ใจทุกขั้นตอนเพื่อยกระดับศักยภาพของสินค้าและบริการของไทยสู่ตลาดสากล แม้แต่การออกแบบตราสัญลักษณ์ T Mark ซึ่งพบได้บนฉลากและบรรจุภัณฑ์ของสินค้า หรือป้ายตราสัญลักษณ์ ณ สถานประกอบการที่ผ่านการรับรอง โดดเด่นด้วยดีไซน์ทรงกลม และตัวอักษรภาษาอังกฤษ “T” ที่มีลวดลายของงานหัตถกรรมจักสาน โดยใช้วิธีการสานซึ่งเป็นงานฝีมือสื่อถึงความประณีต ความพิถีพิถันในการผลิตสินค้าและเต็มเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ความเป็นไทย สู่ผลงานที่สมบูรณ์แบบทั้งประโยชน์การใช้งาน ความสวยงามและคุณภาพ ซึ่งปัจจุบันสินค้าและบริการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark มีมากกว่า 800 บริษัท ครอบคลุมถึง 8 อุตสาหกรรม 

          ในโอกาสสุดพิเศษครั้งนี้ จึงไม่พลาดขอพาคนรุ่นใหม่ไปรู้จักสินค้าและบริการแต่ละอุตสาหกรรม ภายใต้ตราสัญลักษณ์ T Mark กันบางส่วนว่ามีอะไรบ้าง เชื่อว่าหลายสินค้าน่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี

          เริ่มด้วยอุตสาหกรรมอาหาร ประกอบด้วย สินค้าเกษตรกรรม ผักและผลไม้สด อาหารแช่แข็งและแปรรูป อาหารสัตว์และสินค้าปศุสัตว์ ซึ่งตัวอย่างสินค้าและบริการในกลุ่มนี้ เช่น RANONG TEA (เรนอง ที) ชาใบหม่อนเจ้าแรกของไทย ผลิตโดย บริษัท ชาเขียว จำกัด ซึ่งเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรชงเพื่อคนรักสุขภาพ พิถีพิถันคัดสรรส่วนผสมและวัตถุดิบจากธรรมชาติที่ดีที่สุด ตั้งแต่การปลูกชาที่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง การพัฒนาวัตถุดิบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเน้นความเป็นออร์แกนิกให้ได้มากที่สุด ควบคู่กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและผู้บริโภค

          อุตสาหกรรมหนัก ประกอบด้วย สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ วัสดุก่อสร้างและเครื่องมือ สินค้าเคมีและเมล็ดพลาสติก เครื่องจักรกล เครื่องมืออุตสาหกรรม ซึ่งสินค้าและบริการกลุ่มนี้ เช่น สินค้าสุขภัณฑ์แบรนด์ VRH ภายใต้บริษัท วี.อาร์.ยูเนี่ยน จำกัด โดยสินค้ามีดีไซน์สวยโมเดิร์น วัสดุมีคุณสมบัติพิเศษ เป็นสเตนเลสปลอดเชื้อ โดดเด่นด้านความสะอาดและทนทานต่อการเกิดสนิม จนได้รับการยอมรับให้ใช้เป็นวัสดุสำหรับเครื่องมือการแพทย์หรืออุตสาหกรรมอาหาร 

          อุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ ประกอบด้วย สินค้าเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน ของเล่นและเกมส์ ของขวัญและของประดับตกแต่ง สินค้าหัตถกรรม เคหะสิ่งทอ เครื่องเขียน วัสดุอุปกรณ์และเครื่องใช้สำนักงาน ซึ่งสินค้าและบริการในกลุ่มนี้ เช่น บริษัท คราฟท์แฟคเตอร์ จำกัด ผลิตเก้าอี้ดีไซน์เก๋ ทันสมัย อย่าง รุ่น Gaudi มีแรงบันดาลใจของการพึ่งพาอาศัยกัน จึงใช้สายยางถักทอพันเกี่ยวตามจุดที่กำหนดระหว่างโครงสร้างภายนอกและเส้นใยโครงสร้างภายใน พร้อมเสริมความยืดหยุ่นตามสรีระของผู้นั่ง และรับน้ำหนักได้อย่างแข็งแรง

          อุตสาหกรรมแฟชั่น ประกอบด้วย สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและสินค้าตกแต่งแฟชั่น รองเท้าและเครื่องหนัง ซึ่งสินค้าและบริการในกลุ่มนี้ เช่น Asava (อาซาว่า) แบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติไทยชื่อดังของ คุณหมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง ที่ได้รังสรรค์ผลงานคอลเล็กชั่นชุดต่างๆ สวยงาม เต็มเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ จนได้รับความไว้วางใจจากทั้งคนไทยและคนต่างชาติ 

          อุตสาหกรรมอื่นๆ ประกอบด้วย สินค้าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำ วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ จักษุภัณฑ์ สินค้าและบริการด้านสิ่งพิมพ์ บรรจุภัณฑ์ ซึ่งสินค้าและบริการในกลุ่มนี้ เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและสุขภาพสัญชาติไทย แบรนด์ VOODOO (วูดู) ภายใต้บริษัท บิ๊กไอเดีย คอร์ปอเรท (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีส่วนผสมคัดสรรจากสมุนไพรและธรรมชาติ เพื่อความปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิวของผู้ใช้ อีกทั้งโรงงานยังได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 ที่มีการผลิตผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ 

          ธุรกิจบริการด้านโรงพยาบาล/การแพทย์ ประกอบด้วย โรงพยาบาล บริการทางการแพทย์ เช่น ศูนย์ทันตกรรม บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล เดนทัล เซ็นเตอร์ (BIDC) โดดเด่นเรื่องการให้บริการด้านทันตกรรมในคุณภาพระดับสากล โดยมีบุคลากรทางทันตแพทย์ผู้มีความชำนาญสูงคอยให้คำปรึกษาและดูแลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย และศูนย์ทันตกรรม BIDC ยังได้การรับรองจาก Joint Commission International (JCI) ซึ่งเป็นองค์กรสากลจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของโรงพยาบาลและบริการทางการแพทย์ 

          ธุรกิจบริการด้านสุขภาพและความงาม ประกอบด้วย บริการสปา บริการนวดแผนไทย บริการด้านความงาม บริการด้านสุขภาพ เช่น Rarin Jinda Wellness Spa (ระรินจินดา เวลเนส สปา) สถานที่บริการด้านสปามาตรฐานระดับโลก 5 ดาว ที่เด่นด้านการผสมผสานศาสตร์ของการบำบัดตามองค์ความรู้ตะวันออก เทคนิคการนวดของภูมิปัญญาคนไทยแต่ดั้งเดิม และนวัตกรรมตะวันตกด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ควบคู่สมุนไพรไทยเข้าด้วยกัน เพื่อให้บริการนวดผ่อนคลาย และนวดเสริมสุขภาพและความงาม โดยภายในสปาตกแต่งสไตล์ไทยร่วมสมัย โปร่ง สบายตา โดยมีพนักงานยิ้มแย้มให้การต้อนรับทั้งคนไทยและคนต่างชาติด้วยใจบริการ

          ปิดท้ายด้วย ธุรกิจบริการด้านการศึกษา ประกอบด้วย โรงเรียนและมหาวิทยาลัย เช่น Mahidol University International College (วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล) หนึ่งในสถาบันการศึกษาที่ดีที่สุดของประเทศไทย และเป็นมหาวิทยาลัยรัฐแห่งแรกที่มีการเปิดหลักสูตรนานาชาติ โดยมุ่งพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัยและรักษามาตรฐานระดับสากล ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เอื้อหนุนให้นักศึกษาได้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นมีโปรแกรมขยายโอกาสทางการเรียนรู้ให้แก่นักศึกษาโดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยพันธมิตรต่างประเทศ เพื่อพัฒนานักศึกษาให้มีคุณภาพ มีทักษะการลงมือปฏิบัติได้จริง และสามารถนำความรู้ไปต่อยอดและรังสรรค์สิ่งที่ดีเพื่อสร้างประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติได้

          นับว่าสินค้าและบริการของไทยมีดีไม่แพ้ชาติใดเลยทีเดียว....

          หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจเข้าร่วมโครงการตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) สามารถสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ ได้ที่ www.thailandtrustmark.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 02 507 8266